บทความ

หน้าแรก >> บทความ >>

ฉลากสินค้าที่ดีควรมีอะไรบ้าง ช่วยยกระดับแบรนด์-สินค้าอย่างไร

ฉลากสินค้าที่ดีควรมีอะไรบ้าง ช่วยยกระดับแบรนด์-สินค้าอย่างไร

การออกแบบฉลากสินค้าให้ดึงดูดสายตาผู้บริโภค

เคยสังเกตหรือไม่ว่า สินค้าที่มีฉลากมักน่าซื้อมากกว่าสินค้าที่ไม่มีฉลากใด ๆ เลย ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะฉลากสินค้าคือสิ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่า และความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าได้นั่นเอง

ฉลากสินค้าคืออะไร ?

ฉลากสินค้า คือ สื่อที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อของผลิตภัณฑ์ ทำหน้าที่ให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับสินค้านั้น ๆ แก่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดผลิตภัณฑ์ วิธีการใช้งาน ข้อควรระวัง รวมถึงข้อมูลของผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่าย

ที่สำคัญ ฉลากสินค้ายังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยสร้างการจดจำและความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์อีกด้วย

ฉลากสินค้าที่ดีต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ?

  1. ชื่อสินค้าและแบรนด์
  2. ข้อมูลผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่าย
  3. รายละเอียดผลิตภัณฑ์
  4. ส่วนประกอบและสารอาหาร (สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม)
  5. วันผลิตและวันหมดอายุ
  6. คำแนะนำการใช้งานหรือการเก็บรักษา
  7. บาร์โคด (Barcode) หรือรหัสคิวอาร์ (QR code)
  8. เครื่องหมายรับรองคุณภาพหรือมาตรฐาน
  9. คำเตือนหรือข้อควรระวัง (ถ้ามี)

ฉลากสินค้าที่ดีควรมีการออกแบบอย่างไร ?

การออกแบบฉลากสินค้าต้องคำนึงถึงทั้งความสวยงามและประโยชน์การใช้งาน เพราะการออกแบบที่ดีจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค สร้างการจดจำ และสื่อสารข้อมูลสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้

การออกแบบฉลากสินค้าต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายอย่าง

การเลือกใช้สีและโทนสี

การเลือกใช้สี เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการออกแบบฉลากสินค้า เพราะสีสามารถสื่อถึงอารมณ์ได้ ดังนั้นในการออกแบบฉลากสินค้า ผู้ออกแบบจึงควรเริ่มจากการใช้สีหลักของแบรนด์เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ โดยคำนึงถึงจิตวิทยาของสีที่ส่งผลต่อการรับรู้ของผู้บริโภคด้วย เช่น สีเขียวที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ หรือสีน้ำเงินที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือ

นอกจากนั้นการเลือกใช้สียังต้องคำนึงถึงความคมชัดระหว่างสีพื้นหลังและสีตัวอักษร เพื่อให้ข้อมูลอ่านง่ายและชัดเจนด้วย รวมถึงควรเลือกโทนสีที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ เช่น สินค้าสำหรับเด็กอาจใช้สีสดใสสะดุดตา ในขณะที่สินค้าระดับพรีเมียมอาจเลือกใช้โทนสีเรียบหรู แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ใช้สีมากเกินไปจนรบกวนสายตา โดยทั่วไปแล้วการใช้ 2-3 สีหลักถือว่าเพียงพอและเหมาะสมที่สุด

การจัดวางองค์ประกอบและลำดับความสำคัญ

การจัดวางองค์ประกอบบนฉลากสินค้า เป็นสิ่งที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ โดยใช้หลักการ ลำดับความสำคัญในการมองเห็น หรือ Visual Hierarchy เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเป็นลำดับและมีประสิทธิภาพ การแบ่งพื้นที่อาจใช้ระบบกริดที่ชัดเจนเพื่อสร้างความเป็นระเบียบและง่ายต่อการอ่าน โดยจัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกัน

อีกสิ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือ การเว้นพื้นที่ว่าง หรือ White Space ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนที่มีเนื้อหา เพราะที่ว่างจะช่วยให้ฉลากไม่ดูแน่นเกินไปและทำให้ข้อมูลสำคัญโดดเด่นขึ้น นอกจากนี้ การออกแบบเพื่อสร้างจุดนำสายตาที่ชัดเจนก็จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและนำพาสายตาไปยังข้อมูลสำคัญตามลำดับที่ต้องการได้ด้วย

การเลือกใช้ตัวอักษรและขนาด

ตัวอักษรบนฉลากสินค้าไม่เพียงแต่ต้องอ่านง่าย แต่ยังต้องสื่อถึงบุคลิกของแบรนด์ด้วย โดยการออกแบบที่ดีควรจำกัดการใช้ฟอนต์ไม่เกิน 2-3 แบบในฉลากเดียวกัน เพื่อรักษาความเป็นระเบียบและความสวยงาม และขนาดของตัวอักษรควรถูกกำหนดตามลำดับความสำคัญ โดยชื่อสินค้าควรมีขนาดใหญ่ที่สุดเพื่อสร้างการจดจำ

เทคนิคการสร้างความแตกต่างของความหนาในตัวอักษรจะช่วยเพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับฉลากได้ แต่ต้องคำนึงถึงความสามารถในการอ่านจากระยะต่าง ๆ ในสถานการณ์จริง ที่สำคัญคือการใช้ตัวอักษรประดิษฐ์ที่มีความซับซ้อนควรทำอย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ข้อมูลสำคัญอ่านยากเกินไป

การใช้ภาพประกอบและกราฟิก

ภาพและองค์ประกอบกราฟิก ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยการเลือกใช้ภาพประกอบต้องคำนึงถึงคุณภาพและความคมชัดเป็นหลัก และภาพควรสื่อถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งคุณอาจใช้ไอคอนหรือสัญลักษณ์สากลเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอ่านรายละเอียดทั้งหมด

สิ่งสำคัญคือการสร้างสมดุลระหว่างภาพและตัวอักษร โดยไม่ควรให้องค์ประกอบใดโดดเด่นเกินไปจนกลบอีกส่วน และสำหรับข้อมูลที่ซับซ้อน การใช้กราฟิกอธิบายจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ต้องพิจารณาถึงเทคนิคการพิมพ์และวัสดุที่ใช้ด้วย เพื่อให้ภาพและกราฟิกแสดงผลได้อย่างสมบูรณ์

การสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง

การสร้างเอกลักษณ์ให้แก่ฉลากสินค้า อาจเริ่มต้นจากการศึกษาแนวทางการออกแบบของคู่แข่งในตลาด เพื่อค้นหาโอกาสในการสร้างความแตกต่าง ซึ่งการพัฒนาเอกลักษณ์เฉพาะตัวอาจทำได้ผ่านการใช้สี รูปแบบ หรือองค์ประกอบพิเศษที่ไม่เหมือนใคร โดยต้องรักษาความต่อเนื่องในการออกแบบตลอดทุกผลิตภัณฑ์

การใช้เทคนิคพิเศษในการพิมพ์ เช่น การปั๊มฟอยล์ หรือการเคลือบผิวพิเศษ เป็นสิ่งที่สามารถช่วยเพิ่มความน่าสนใจและมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้ อย่างไรก็ตาม การออกแบบต้องรักษาสมดุลระหว่างความคิดสร้างสรรค์และความเรียบง่ายในการใช้งาน เพื่อให้ฉลากสินค้าไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังคงความเป็นประโยชน์และใช้งานได้จริง

ฉลากสินค้าที่ดีไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลที่จำเป็น แต่ยังต้องสามารถดึงดูดความสนใจและสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผลิตภัณฑ์ด้วย ดังนั้นการลงทุนกับการออกแบบและผลิตฉลากสินค้าที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าแล้ว ยังช่วยสร้างความประทับใจและความไว้วางใจจากผู้บริโภคได้อีกด้วย

เพิ่มมูลค่าให้สินค้าของคุณได้ เพียงติดฉลากสินค้า ซึ่งที่ Scale Up พร้อมให้บริการคลังสินค้าออนไลน์อย่างครบวงจร ทั้งระบบ OMS, WMS ตลอดจนเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยบริการสร้างฉลากสินค้าและบริการติดฉลากสินค้า และอื่น ๆ เราพร้อมดูแลให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปด้วยกัน สนใจบริการรับติดฉลากสินค้า สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง LINE ID : https://lin.ee/HPXeKAo หรือโทร. 098 991 9356

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. Product Label Design Tips to Attract Customers. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 จาก https://www.business.com/articles/product-label-design-tips-to-help-you-attract-customers/

บทความอื่นๆ

FB Icon line Icon
Go to Top
th
th